รับใบเสนอราคาฟรี

ตัวแทนของเราจะติดต่อคุณในไม่ช้า
อีเมล
มือถือ
ชื่อ
ชื่อบริษัท
ข้อความ
0/1000
หน้าแรก> ข่าว

ป้าย RFID เทียบกับป้ายบาร์โค้ด: เข้าใจความแตกต่างหลักสำหรับการติดตามทรัพย์สิน

Time : 2025-04-16

เทคโนโลยี RFID เทียบกับบาร์โค้ด: การอธิบายกลไกหลัก

การทำงานของป้าย RFID: แท็กและคลื่นวิทยุ

การทำงานของ RFID หรือการระบุความถี่วิทยุอาศัยการทำงานร่วมกันของแท็กและเครื่องอ่านที่สื่อสารกันผ่านคลื่นวิทยุ โดยแท็ก RFID ส่วนใหญ่มีไมโครชิปขนาดเล็กเชื่อมต่อกับเสาอากาศที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลออกมาเมื่อได้รับพลังงานจากอุปกรณ์อ่าน ปัจจุบันแท็ก RFID ในตลาดมีอยู่สองประเภทหลัก คือ แบบพาสซีฟ (Passive tags) ซึ่งไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เลย เพราะมันได้รับพลังงานจากเครื่องอ่านที่สแกนเข้ามา และแบบแอคทีฟ (Active tags) ที่มีแบตเตอรี่ในตัวเอง ช่วยให้มันสามารถทำงานได้ห่างจากเครื่องอ่านมากกว่าหลายสิบเมตรหรือแม้กระทั่งร้อยกว่าเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ทางเลือกระหว่างแท็กทั้งสองแบบนี้มักขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องการติดตามสิ่งของหรือบุคคล

ข้อได้เปรียบที่ระบบเหล่านี้สามารถตรวจจับสัญญาณได้ในระยะทางที่ไกลมาก พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริษัทในการมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทานของตน และการจัดการระดับสต็อกสินค้า หลายธุรกิจรายงานว่าผลการติดตามสินค้าดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนมาใช้แท็ก RFID แทนวิธีการแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกชื่นชอบเทคโนโลยีนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมตรวจสอบสินค้าที่เคลื่อนย้ายผ่านคลังสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับการสแกนแบบ manual บริษัทที่นำโซลูชัน RFID มาใช้บ่อยครั้งพบว่าดำเนินการได้อย่างราบรื่นขึ้นในแต่ละวัน มีปัญหาสินค้าหมดน้อยลง และสินค้าที่ถูกกักเก็บไว้โดยไม่ได้ใช้งานก็น้อยลงด้วย ความชัดเจนในการดำเนินงานในลักษณะนี้ ทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่แท้จริงเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ยังพึ่งพิงระบบสินค้าคงคลังแบบเก่า ซึ่งไม่สามารถตอบสนองได้อีกต่อไปในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ฟังก์ชันบาร์โค้ด: พื้นฐานของการสแกนด้วยแสง

บาร์โค้ดมีมาอย่างยาวนานในฐานะวิธีการเก็บข้อมูลในแถบสีดำและสีขาวที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ลวดลายเหล่านี้ใช้งานได้ดีเพราะสามารถอ่านได้โดยเครื่องจักร โดยทั่วไปผ่านเส้นขนานที่มีความกว้างและความห่างแตกต่างกันออกไป สำหรับการสแกนให้ได้ผลจริงๆ จำเป็นต้องมีสภาพที่มองเห็นได้ชัดเจนระหว่างบาร์โค้ดกับอุปกรณ์ที่ใช้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกนเลเซอร์แบบเก่าหรือระบบใหม่ที่ใช้กล้อง เมื่อมีผู้สแกนบาร์โค้ด สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือกระบวนการที่น่าทึ่งอยู่เบื้องหลัง เครื่องสแกนจะถอดรหัสเส้นต่างๆ ให้กลายเป็นตัวเลขและตัวอักษร จากนั้นจึงนำข้อมูลเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลบางประเภทที่เก็บรายละเอียดของสินค้าไว้ เช่น ราคา คำอธิบาย หรือแม้กระทั่งระดับสินค้าคงคลัง

บาร์โค้ดมักมีราคาถูกกว่าและติดตั้งง่ายกว่าเทคโนโลยี RFID แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรกล่าวถึง เช่น บาร์โค้ดธรรมดาโดยทั่วไปเก็บข้อมูลได้น้อยกว่าที่แท็ก RFID สามารถจัดการได้ นอกจากนี้ สินค้าแต่ละชิ้นจำเป็นต้องสแกนแยกกัน ทำให้ช้าลงมากเมื่อต้องจัดการกับสินค้าจำนวนมากในคลังสินค้าหรือร้านค้า ถึงกระนั้น บริษัทจำนวนมากยังคงใช้ระบบบาร์โค้ดแบบดั้งเดิมเพราะใช้งานได้ดีและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ความเรียบง่ายก็เป็นข้อได้เปรียบเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับกิจการขนาดเล็ก ซึ่งเทคโนโลยีที่ซับซ้อนอาจก่อให้เกิดปัญหามากกว่าจะเป็นคำตอบ

ความแตกต่างหลักในความสามารถของการติดตามทรัพย์สิน

ข้อกำหนดเรื่องสายตาเห็น: ข้อจำกัดของบาร์โค้ด

บาร์โค้ดแบบมาตรฐานจำเป็นต้องมีแนวการมองเห็นที่ชัดเจนเพื่อให้ทำงานได้ดี ทำให้ใช้งานได้ยากในพื้นที่จัดเก็บที่แออัดซึ่งสิ่งของมักวางระเกะระกะอยู่เสมอ เมื่อ boxes ถูกซ้อนกันสูงหรือถูกเก็บซ่อนไว้ด้านหลังของสินค้าอื่น พนักงานจะเสียเวลาไปกับการค้นหาสิ่งที่ต้องการอยู่เสมอ ผู้จัดการคลังสินค้ารายงานว่า พนักงานต้องใช้เวลานานมากในการตามหาสินค้าเพื่อทำการสแกน ซึ่งกินเวลางานที่มีค่าไป บางสถานที่พบว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลงเป็นตัวเลขสองหลักจากปัญหาการสแกนเหล่านี้ สำหรับผู้ที่บริหารระบบขนาดใหญ่ การทำให้บาร์โค้ดมองเห็นได้ง่ายไม่ใช่แค่เรื่องที่ช่วยได้ แต่แทบจะเป็นสิ่งจำเป็นถ้าต้องการให้ระบบจัดการสินค้าคงคลังทำงานได้เลย

ประสิทธิภาพของการสแกนแบบกลุ่ม: ข้อได้เปรียบของ RFID Multi-Tag

ระบบ RFID ใช้งานได้ดีมากสำหรับการสแกนแบบเป็นกลุ่ม เนื่องจากสามารถอ่านแท็กหลายแท็กพร้อมกันได้โดยไม่จำเป็นต้องชี้เครื่องสแกนไปที่แท็กโดยตรง สิ่งนี้สร้างความแตกต่างอย่างมากในสถานที่เช่นคลังสินค้า ที่ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และทุกนาทีมีค่า งานวิจัยบางส่วนแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนมาใช้ระบบ RFID ช่วยลดเวลาในการสแกนลงได้ประมาณ 90% ซึ่งหมายความว่าพนักงานจะใช้เวลานับสต็อกน้อยลง และมีเวลามากขึ้นในการทำงานจริงเมื่อติดตามสินทรัพย์ในหลายพื้นที่

ความจุในการเก็บข้อมูล: แท็ก RFID เทียบกับบาร์โค้ดแบบสถิต

แท็ก RFID สามารถเก็บข้อมูลได้ค่อนข้างมาก ตั้งแต่หมายเลขผลิตภัณฑ์ง่ายๆ ไปจนถึงข้อมูลการติดตามที่ละเอียดตลอดกระบวนการซัพพลายเชนทั้งหมด ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากบาร์โค้ดแบบสถิตที่จำกัดอยู่แค่ตัวเลขหรือตัวอักษรพื้นฐาน ความจุที่เพิ่มขึ้นของ RFID ช่วยให้บริษัทสามารถติดตามสินค้าได้แม่นยำมากขึ้นสำหรับระบบสต็อกสินค้า และยังสามารถดึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกมาใช้ได้อีกมากมาย โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกต่างได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะเมื่อพวกเขามีข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ก็จะช่วยให้การตัดสินใจของพวกเขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่งที่ยังคงใช้วิธีสแกนแบบเดิม

การพิจารณาเรื่องต้นทุนและการดำเนินการ

การลงทุนครั้งแรก: ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน RFID

การตั้งค่าระบบ RFID หมายถึงการลงทุนก้อนโตในช่วงแรก เนื่องจากบริษัทต้องซื้ออุปกรณ์พิเศษต่างๆ เช่น เครื่องอ่าน แอนเทนา และแท็กขนาดเล็กเหล่านั้น ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของการดำเนินงาน แต่โดยรวมแล้วมันอาจสูงถึงหลายพันดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมากไม่สามารถจ่ายได้ตามงบประมาณที่มีอยู่ ตามรายงานการวิจัยตลาด แม้ว่า RFID จะต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ในช่วงเริ่มต้น แต่บริษัทส่วนใหญ่พบว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ เนื่องจากค่าแรงที่ลดลงและการควบคุมสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากกรณีศึกษาทางธุรกิจจริง แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี RFID ช่วยลดการสูญเสียเวลาในการทำงาน และสามารถติดตามสินค้าคงคลังได้อย่างแม่นยำมากกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม

การบำรุงรักษาในระยะยาว: ความคุ้มค่าของบาร์โค้ด

สรุปคือ ระบบบาร์โค้ดมักมีค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของถูกกว่าในระยะยาว เพราะไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรมากมาย และอะไหล่ก็ไม่ได้มีราคาแพง ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้การใช้งานเครื่องอ่านบาร์โค้ดได้ค่อนข้างเร็ว ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถนำระบบนี้มาใช้ร่วมกับเครื่องคิดเงินแบบพื้นฐาน และวิธีการติดตามสินค้าคงคลังแบบมาตรฐานได้ โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโครงสร้างเทคโนโลยีที่ซับซ้อนก่อน การดูตัวเลขจากหลายอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยการยึดระบบบาร์โค้ดไว้ แทนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องคำนึงถึงทุกบาททุกสตางค์ ข้อได้เปรียบด้านราคาของระบบบาร์โค้ดนั้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก ร้านค้าท้องถิ่นหลายแห่งพบว่าสามารถดำเนินกิจการไปวันๆ ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้ออุปกรณ์ราคาแพงในตอนเริ่มต้น

ความท้าทายในการผสานรวมกับระบบเดิม

การเปลี่ยนจากการใช้บาร์โค้ดแบบดั้งเดิมมาใช้ระบบ RFID มักสร้างความปวดหัวในเรื่องของการผสานรวมกับแพลตฟอร์ม ERP และซอฟต์แวร์ด้านโลจิสติกส์ที่องค์กรใช้งานอยู่เดิม หลายองค์กรพบว่าจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการทำงานทั้งหมดเพื่อให้ระบบต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ระหว่างเทคโนโลยีเดิมกับฮาร์ดแวร์ RFID ใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานอย่างมาก หากไม่ได้วางแผนจัดการให้เหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เคยผ่านการเปลี่ยนผ่านลักษณะนี้มาแล้ว ต่างชี้ว่าการวางแผนอย่างรอบคอบถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การเปลี่ยนผ่านที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่อบริษัทดำเนินการทีละขั้นตอน แทนที่จะพยายามนำระบบใหม่มาใช้ทั้งหมดในคราวเดียว องค์กรที่แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเริ่ม มักจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว และสามารถใช้ประโยชน์จากเงินลงทุนในเทคโนโลยี RFID ได้อย่างเต็มที่

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน RFID คุณอาจต้องการตรวจสอบ Alpha-40L RFID Mobile Printer ซึ่งเป็นส่วนเสริมของระบบ RFID แบบตั้งโต๊ะและช่วยให้สามารถติดตามทรัพย์สินขั้นสูงในหลากหลายอุตสาหกรรม

การประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมและความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุด

การจัดการคลังสินค้า: สติกเกอร์ NFC ในโลจิสติกส์อัจฉริยะ

ผู้จัดการคลังสินค้าในปัจจุบันพบว่าสติกเกอร์ NFC ถือเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนเกมส์สำหรับการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์อัจฉริยะ สติกเกอร์ขนาดเล็กเหล่านี้ช่วยให้พนักงานสามารถสแกนสินค้าได้อย่างรวดเร็วด้วยโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์แบบพกพา ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการตรวจนับสินค้าคงคลัง พนักงานคลังสินค้าสามารถตรวจสอบตำแหน่งของสินค้าได้แบบทันที โดยไม่ต้องไล่ค้นหาเอกสารหรือระบบคอมพิวเตอร์ ผลการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงแสดงให้เห็นว่า เมื่อคลังสินค้านำระบบแท็ก NFC มาใช้งาน จะมีข้อผิดพลาดในบันทึกสินค้าคงเหลือลดลง แท็กเหล่านี้ช่วยให้ตรวจพบสินค้าที่วางผิดตำแหน่งก่อนที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ ยิ่งเฉพาะช่วงเวลาที่มีการดำเนินการหลายคำสั่งซื้อพร้อมกัน ในหลายพื้นที่รายงานว่าการจัดระเบียบโดยรวมดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีนี้

ความปลอดภัยในธุรกิจค้าปลีก: แท็ก RFID สำหรับระบบป้องกันการขโมย

แท็ก RFID เพิ่มประสิทธิภาพระบบความปลอดภัยในธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากช่วยให้ร้านค้าสามารถติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ ทำให้ยากขึ้นสำหรับการลักขโมยสินค้า เมื่อร้านค้าใช้เทคโนโลยี RFID จริง ๆ แล้ว จะพบว่ามีการสูญเสียสินค้าคงคลังลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การนับสต็อกมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน เริ่มเห็นการใช้งาน RFID ที่ก้าวไกลเกินกว่าแค่ระบบความปลอดภัย บางร้านค้าขนาดใหญ่ใช้แท็กเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์เช่น การอัปเดตการแสดงผลบนชั้นวางสินค้าโดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าใกล้หมด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้กำลังเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของเราจากโซลูชันความปลอดภัยค้าปลีกสมัยใหม่อย่างไร

โซลูชันไฮบริด: การรวมกันของบาร์โค้ดและแท็ก NFC

ระบบไฮบริดที่ผสมผสานบาร์โค้ดแบบดั้งเดิมเข้ากับแท็ก NFC แบบทันสมัย กำลังสร้างข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจให้กับองค์กรที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน บริษัทต่างๆ สามารถรักษาระบบที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้วจากบาร์โค้ดมาตรฐาน แต่ยังได้รับความสามารถใหม่ๆ ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านชิป NFC เล็กๆ เหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลายคนเชื่อว่าแนวทางผสมผสานนี้ช่วยเพิ่มทั้งความพึงพอใจของลูกค้าและประสิทธิภาพภายในองค์กรพร้อมกันหลายประการ ผู้ค้าปลีกต่างรายงานว่ามีความก้าวหน้าในการจัดการสินค้าคงคลังและการให้บริการลูกค้าแล้ว หลังจากเริ่มใช้เทคโนโลยีแบบคู่นี้

การเลือกระหว่างป้าย RFID และบาร์โค้ด

การติดตามทรัพย์สินมูลค่าสูง: เมื่อใดที่ RFID มีประสิทธิภาพเหนือกว่า

เทคโนโลยี RFID มีจุดเด่นมากเมื่อต้องติดตามอุปกรณ์ราคาแพง เนื่องจากให้ข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะต่าง ๆ ได้ทันทีที่เกิดขึ้น โรงพยาบาลและโรงงานต่างพึ่งพาอาศัยระบบ RFID อย่างมากในการติดตามสิ่งของสำคัญ ซึ่งช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดจำนวนสิ่งของที่สูญหายไปในระยะยาว การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ระบบเหล่านี้สามารถเพิ่มความแม่นยำในการติดตามได้มาก บางครั้งสามารถทำระดับความแม่นยำเกินกว่า 90% ความจริงที่ว่าสิ่งของไม่สูญหายไปอีกต่อไปนั้น ถือเป็นความสบายใจอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องเผชิญกับความผิดพลาดทางการเงินอันเนื่องมาจากอุปกรณ์ที่หายไป สำหรับสถานที่ที่ความแม่นยำมีความสำคัญสูงสุด RFID ในปัจจุบันถือเป็นเทคโนโลยีที่เกือบจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว

การติดตามที่ประหยัดงบประมาณ: กรณีการใช้งานบาร์โค้ด

ธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัดยังคงพบว่าระบบบาร์โค้ดทำงานได้ดีสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการสินค้าคงคลังที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากวันหนึ่งไปอีกวันหนึ่ง ร้านค้าปลีกและคลังสินค้าต่างชื่นชอบบาร์โค้ดเพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว บริษัทใหม่จำนวนมากที่เพิ่งเริ่มต้นดำเนินการ รวมถึงบริษัทที่มีเพียงไม่กี่คนในทีมงาน มักเลือกใช้ระบบสแกนง่ายๆ เหล่านี้ เนื่องจากติดตั้งง่ายและมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าทางเลือกอื่นๆ ข้อได้เปรียบหลักคือการจัดการสต็อกสินค้าจะง่ายขึ้นมาก โดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากไปกับแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้การฝึกอบรมและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต: การพัฒนาเทคโนโลยี NFC

ความก้าวหน้าที่เราเห็นในเทคโนโลยี NFC ชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่เป็นรูปธรรมสำหรับบริษัทที่ต้องการคงความน่าสนใจของตนเองไว้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัว เมื่อองค์กรเริ่มใช้งาน NFC พวกเขามักจะพบว่าตนเองมีความพร้อมมากขึ้นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในหลากหลายด้านของการดำเนินงาน ผู้เชี่ยวชาญในตลาดต่างพูดถึงการที่การใช้งาน NFC อาจเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ดี เมื่อพิจารณาจากจังหวะความเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน แม้ว่าไม่มีใครสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำ แต่ผู้ที่เริ่มใช้งาน NFC ตั้งแต่เนิ่นๆ ดูเหมือนจะวางรากฐานให้ตนเองพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บริษัทที่เริ่มก้าวเข้าสู่ระบบตอนนี้ อาจพบว่าตนเองมีความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งหลายขั้น เมื่อถึงเวลาที่ผู้อื่นเริ่มเร่งรีบตามหาทางแก้ไขในภายหลัง